แนวโน้มราคาทอง
ปรับตัวขึ้น แต่ระวังแรงเทขาย
- ทองคำปรับตัวขึ้นในช่วงกลางวัน
- รัสเซียจ่อซื้อทองคำเพิ่ม
Gold Spot
สูงสุด – 2,506 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,493 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 40,150 บาท
ต่ำสุด – 40,050 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในช่วงกลางวัน จากดอลลาร์อ่อนค่า อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรอตัวเลขการจ้างงานสหรัฐในคืนนี้และคืนพรุ่งนี้ เพื่อประเมินขนาดการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดที่จะเกิดขึ้น ทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากรัสเซียจ่อซื้อสกุลเงินต่างประเทศ-ทองคำเพิ่มนับตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย. ถึง 4 ต.ค. โดยปริมาณการซื้อรายวันจะอยู่ที่ 8.2 พันล้านรูเบิล (ราว 94 ล้านดอลลาร์)
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนส.ค. ของ ADP ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 144,000 ตำแหน่ง จากเพิ่มขึ้น 122,000 ตำแหน่ง จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะทรงตัวที่ 231,000 ราย และดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค. โดย ISM ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 51.3 จาก 51.4 ในเดือนก.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
คาดราคาทองคำปรับตัวขึ้นในระยะสั้น จากสัญญาณทางเทคนิคใน Timeframe 60-240 นาที มีสัญญาณการปรับตัวขึ้น แต่จับตาบริเวณแนวต้าน 2,510-2,515 ดอลลาร์ หากไม่ผ่านจะมีแรงเทขายออกมาบ้าง โดยราคาทองคำมีแนวรับ 2,490 ดอลลาร์ และ 2,470 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,490 และ 2,470 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,510 และ 2,520 ดอลลาร์
หากเก็งกำไรระยะสั้น สามารถเปิด Short position บริเวณ 2,510-2,515 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,520 ดอลลาร์ และ Take profit บริเวณ 2,470 ดอลลาร์ หรือเข้าซื้อบริเวณ 2,470 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,560 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 40,000 และ 39,900 บาท
แนวต้าน : 40,200 และ 40,300 บาท
ราคาทองคำแท่งถูกกดดันจากค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็ว ซึ่ง 2 วันที่ผ่านมาค่าเงินบาทแข็งค่าไปเกือบ 1.7% จากดอลลาร์อ่อนค่า และปัจจัยภายในประเทศที่มีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำแท่งยังมีทิศทางปรับตัวลง และมีโอกาสปรับตัวลงสู่ระดับ 40,000 บาท แนะนำ Wait & See รอจังหวะการเข้าซื้อ