สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันจันทร์ (20 มี.ค.) โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 9.30 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,982.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 18.40 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 22.646 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 18.20 ดอลลาร์ หรือ 1.86% ปิดที่ 996.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 16.50 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 997.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. 2565 หลังจากที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ในระหว่างวัน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
ธนาคารเครดิต สวิส เผชิญวิกฤตการณ์การเงินอย่างหนัก จนทำให้ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์และรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการผลักดันให้ธนาคารยูบีเอสบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการเครดิต สวิส ในวงเงิน 3 พันล้านฟรังก์สวิส (3.23 พันล้านดอลลาร์) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 มี.ค.)
ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.42% แตะที่ 103.2828 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 มี.ค.นี้ ขณะที่โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ อันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ในระบบธนาคาร
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์