ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อทองคำเดือนมิถุนายน
Gold Bullish
- ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส
- ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง
- ความต้องการทองจากกระแส De-Dollarization
Gold Bearish
- เงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับสูงกว่าเป้าหมาย
- ตลาดคาดว่าเฟดตรึงดอกเบี้ยสูงนานขึ้น
ติดตามปัจจัยที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำเดือนมิถุนายน
ประเด็นแรกยังคงต้องติดตามการประชุมเฟดในวันที่ 11-12 มิ.ย. ทางกลุ่มฮั่วเซ่งเฮงยังคงคาดการณ์เหมือนเดิมว่าเฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ระดับ 5.25-5.50% แม้ว่า Core PCE สหรัฐในวันศุกร์จะออกมาต่ำกว่าตลาดคาด แต่กลุ่มฮั่วเซ่งเฮงได้ปรับเปลี่ยนมุมมองการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยปีนี้ 1 ครั้ง แต่สิ่งที่ต้องติดตามที่สำคัญคือ Dot plot ของเฟดว่าเฟดจะมีมุมมองเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ จากเดิมที่เฟดเคยส่งสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ 3 ครั้ง
ประเด็นต่อมา คือเรื่องสงคราม หรือความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ เราคาดว่าสงครามในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส รวมถึงสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน อาจจะยังไม่ได้ขยายเป็นวงกว้างหรือมีความรุนแรงบานปลายเกิดขึ้นในระยะอันใกล้นี้ ทั้งนี้สงครามอาจยังเกิดขึ้นอยู่ แต่ตลาดได้ซึมซับเหตุการณ์พอสมควรแล้ว จึงอาจยังไม่ได้หนุนราคาทองคำมากนักในเดือนนี้ ทั้งนี้ในแง่ของสงครามอิสราเอล-ฮามาส สหรัฐอาจยังไม่เห็นด้วยต่อสงครามที่ส่อแววรุนแรงขึ้น เนื่องจากปีนี้จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย.
ซึ่งประเด็นสุดท้าย คือยังคงต้องติดตามการเมืองสหรัฐมากขึ้น เนื่องจากช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มเข้าสู่โหมดที่ทั้งสองพรรคต่างหยิบยกนโยบายหาเสียงกันมาแข่งขันอย่างดุเดือด ซึ่งในเดือนนี้อาจมีการดีเบตเกิดขึ้นระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ทั้งนี้โดยปกติแล้วการจัดดีเบตของผู้สมัครประธานาธิบดีมักมีการประกาศล่วงหน้าผ่านทางแหล่งข่าวทางการและเว็บไซต์ของคณะกรรมการดีเบตประธานาธิบดี (Commission on Presidential Debates) และไทม์ไลน์เดิมการดีเบตจะเกิดขึ้นหลังจากการประชุมพรรคใหญ่ของทั้งสองพรรคทั้งพรรครีพับริกันและพรรคแดโมแครต ซึ่งการดีเบตจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนต.ค. อย่างไรก็ตาม เหมือนว่านายโดนัลด์ ทรัมป์กับประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะมีการตกลงกันที่จะร่วมดีเบตกันในเดือนมิ.ย.ที่จะถึงนี้ โดยการดีเบตครั้งแรกจะเกิดขึ้นในวันที่ 27 มิ.ย. ที่สตูดิโอโทรทัศน์ที่ไม่มีผู้ชม และจะดีเบตแบบตัวต่อตัวครั้งที่ 2 ในสถานีโทรทัศน์เอบีซีนิวส์ในวันที่ 10 ก.ย. หากการดีเบตเกิดขึ้นในเดือนนี้นั่นก็หมายความว่าการดีเบตครั้งแรกนั้นจะมีขึ้นเร็วกว่าปกติ และเร็วกว่าการประชุมใหญ่ของแต่ละพรรคที่จะมีการนำเสนอตัวแทนแต่ละพรรคเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่ง ณ ตอนนี้ จากผลสำรวจของ RealClearPolitics พบว่านายโดนัลด์ ทรัมป์มีคะแนนความนิยมนำโจ ไบเดนอยู่เล็กน้อย เมื่อพิจารณาจาก Swing state ก็พบว่า ทรัมป์ก็มีคะแนนนำไบเดน ซึ่งนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์มีผลบวกต่อราคาทองคำอย่างมาก ทั้งในเรื่องนโยบายการคลัง ที่มีโอกาสว่าทรัมป์อาจจะเลื่อนระยะเวลาในการปรับลดภาษีที่จะหมดอายุลงออกไป การเก็บภาษีนำเข้าที่มากกว่า 60% สำหรับสินค้าทุกชนิดของจีน นโยบายการเงินที่ทรัมป์มีโอกาสที่ไม่ต่ออายุของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดที่จะหมดอายุวันที่ 15 พ.ค. 2026 อาจมีการแต่งตั้งประธานเฟดขึ้นมาใหม่ที่มีนโยบายการปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงอาจมีการนำเอา gold standard กลับนำมาใช้ ข้อจำกัดการย้ายถิ่นฐานของแรงงาน การสนับสนุนอิสราเอลให้เกิดความรุนแรงมากขึ้นในบริเวณฉนวกกาซา ส่วนสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทรัมป์อาจจะลดการให้ความช่วงเหลือยูเครน และการคว่ำบาตรอิหร่านอาจกลับมา ซึ่งนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์อาจส่งผลให้ต้นทุนสินค้าสูงขึ้น ต้นทุนแรงงานสูงขึ้น แนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐขาลง Trade war ที่ค่อนข้างรุนแรง ความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์มากขึ้น ล้วนส่งผลบวกต่อราคาทองคำในระยะยาวได้
สัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำจาก Modified Stochastic ยังไม่เกิดเส้นตัดกันขึ้นมา และ MACD<0 ซึ่งยังส่งสัญญาณทิศทางการปรับตัวลง ส่วนสัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐ และการจ้างงานของสหรัฐ สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 2,300 ดอลลาร์ และ 2,290 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,356 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,370 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 40,400 บาท และ 40,100 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 40,900 บาท และ 41,000 บาท