แนวโน้มราคาทอง
เคลื่อนไหวกรอบแคบลง
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +8.4 ดอลลาร์ คิดเป็น (+0.34%)
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,455 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,469 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,432 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 40,800 บาท
ต่ำสุด – 40,700 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำฟื้นตัว แต่มีแรงเทขายในช่วงกลางคืน ซึ่งเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นมากกดดันราคาทองคำ หลังจากยอดค้าปลีกเดือนก.ค เพิ่มขึ้น 1% แข็งแกร่งเกินคาด และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด ทั้งนี้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 2.02 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างบ้านเดือนก.ค. และการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนก.ค. ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ 1.43 ล้านยูนิต และ 1.34 ล้านยูนิต ตามลำดับ นอกจากนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.ของม.มิชิแกน (เบื้องต้น) ตลาดคาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 66.7 จาก 66.4 ในเดือนก.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวใกล้ Head ของรูปแบบ Triple top ขณะที่แรงส่ง (Momentum) เริ่มลดลง แต่ indicator จาก Modified Stochastic ยังไม่เกิดเส้นตัดกันลงมา หรือสัญญาณขาย (Sell signal ) อย่างไรก็ตาม ยังคงให้ระวังแรงขายบริเวณใกล้ราคา All-Time High ทั้งนี้คาดว่าช่วงกลางวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบลง
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,440 และ 2,430 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,470 และ 2,577 ดอลลาร์
ขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ที่ All-Time High แล้วเปิด Long Position ใหม่บริเวณ 2,420-2,430 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,415 ดอลลาร์ แต่ถ้าหลุด 2,420 ดอลลาร์ ให้ Short Position
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 40,600 และ 40,500 บาท
แนวต้าน : 40,850 และ 40,950 บาท
เงินบาทแข็งค่าแถวบริเวณ 35 บาทกดดันราคาทองคำแท่ง แม้ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้น ทำให้ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นไม่มาก ขณะที่ติดตามประเด็นการเมืองไทยวันนี้ที่จะมีโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 อาจส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าชั่วคราว แนะนำเริ่มขายทำกำไรบางส่วน สำหรับเข้าซื้อทองคำแท่งให้ Wait & See