ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (12 มิ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,712.21 จุด ลดลง 35.21 จุด หรือ -0.09%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,421.03 จุด เพิ่มขึ้น 45.71 จุด หรือ +0.85% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,608.44 จุด เพิ่มขึ้น 264.89 จุด หรือ +1.53%
ในช่วงแรก ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุด ทะลุแนว 39,000 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.4% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนเม.ย. ส่วนเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนพ.ค. หรือปรับตัวขึ้น 0.0% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวขึ้น 0.1% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI เดือนพ.ค.ที่ต่ำกว่าคาด นักลงทุนได้เพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย. และจะปรับลดอีกครั้งในเดือนธ.ค.
แต่ตลาดปรับตัวผันผวนในเวลาต่อมา หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด แต่ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 1 ครั้งในปี 2567 จากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในการประชุมเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า แม้เงินเฟ้อชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สูงเกินไป และการคาดการณ์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากแนวโน้มที่เงินเฟ้อจะปรับตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% นั้น มีความล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรม พุ่งขึ้น 2.46% และ 0.93% ตามลำดับ ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ปรับตัวลง 1.09% และ 1% ตามลำดับ
หุ้นแอปเปิ้ล ปิดตลาดพุ่งขึ้น 2.9% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันอังคาร โดยในระหว่างวัน มูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของแอปเปิ้ลแซงหน้าบริษัทไมโครซอฟท์ หลังจากแอปเปิ้ลเปิดตัว Apple Intelligence เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ารวมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัท เช่น iPhone, iPad และ Mac
หุ้นออราเคิล ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์รายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 13.3% หลังบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ที่แข็งแกร่งในปีงบการเงิน 2568
นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐในสัปดาห์ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค. ส่วนในวันพรุ่งนี้จะเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์