ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (6 มิ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลบเล็กน้อย ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ โดยนักลงทุนจับตาข้อมูลดังกล่าวอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,886.17 จุด เพิ่มขึ้น 78.84 จุด หรือ +0.20%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,352.96 จุด ลดลง 1.07 จุด หรือ -0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,173.12 จุด ลดลง 14.78 จุด หรือ -0.09%
ในระหว่างวัน ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนที่ดัชนีจะอ่อนแรงลงในเวลาต่อมาเนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลง
หุ้น 3 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง 1.03% และ 0.60% ตามลำดับ ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 0.97% และ 0.55% ตามลำดับ
บิล สตราซซุลโล หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านการตลาดจากบริษัท Bell Curve Trading ในเมืองบอสตันกล่าวว่า “นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่ปกติ โดยหลังจากตลาดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อวันพุธ (5 มิ.ย.) นักลงทุนก็ปรับโพสิชันในวันถัดมา ก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร”
กระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.ในวันนี้ เวลาประมาณ 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนพ.ค.จะทรงตัวที่ระดับ 3.9%
ส่วนเมื่อคืนนี้ สหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 229,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 220,000 ราย ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐอ่อนแรงลง และอาจเปิดทางให้เฟดเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้นำร่องปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 5 ปีหรือนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2562
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 68% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ขณะที่ผลสำรวจของแอลเอสอีจี (LSEG) และสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้
หุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ปิดตลาดร่วงลง 1.1% ส่งผลให้อินวิเดียกลับไปเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกอีกครั้ง หลังจากที่เพิ่งแซงหน้าแอปเปิ้ลขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
หุ้นลูลูเลมอน เอธเลติกา (Lululemon Athletica) พุ่งขึ้น 4.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงเกินคาดในไตรมาส 1
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์