ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร (2 เม.ย.) ซึ่งเป็นการดิ่งลงติดต่อกันวันที่ 2 หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานสูงกว่าคาด ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน และทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นเทสลา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,170.24 จุด ลดลง 396.61 จุด หรือ -1.00%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,205.81 จุด ลดลง 37.96 จุด หรือ -0.72% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,240.45 จุด ลดลง 156.38 จุด หรือ -0.95%
สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงานที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8.756 ล้านตำแหน่งในเดือนก.พ. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 8.740 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 8.748 ล้านตำแหน่งในเดือนม.ค.
การพุ่งขึ้นของตัวเลข JOLTS ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.405% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. 2566 และทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 56.3% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 63.8% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
รัสเซลล์ ไพร์ซ นักวิเคราะห์จากบริษัท Ameriprise Financial ในรัฐมิชิแกนกล่าวว่า “ตลาดกำลังเผชิญภาวะ ‘มีข่าวดีในข่าวร้าย’ เนื่องจากตัวเลข JOLTS ล่าสุดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่งซึ่งถือเป็นข่าวดี แต่ข้อมูลดังกล่าวทำให้ตลาดกังวลว่าอาจจะทำให้เฟดชะลอเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และยังส่งผลให้ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้”
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ร่วงลง 1.62% และ 1.28% ตามลำดับ ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสาธารณูปโภค ปรับตัวขึ้น 1.37% และ 0.17% ตามลำดับ
หุ้นเทสลา ร่วงลง 4.9% และเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาด หลังจากเทสลาเปิดเผยว่า ตัวเลขการผลิตรถยนต์ในไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ระดับ 433,371 คัน ลดลง 1.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี และการส่งมอบรถยนต์อยู่ที่ระดับ 386,810 คัน ลดลง 8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 205,000 ตำแหน่ง ซึ่งชะลอตัวลงหลังจากที่เพิ่มขึ้น 275,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9% ในเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค.จาก ADP และดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ส่วนในวันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดุลการค้าเดือนก.พ.
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์