แนวโน้มราคาทอง
2,500 – 2,530 ดอลลาร์
- ทองคำมีแรงเทขายสลับแรงซื้อ
- ดอกเบี้ยขาลงหนุนทองคำ
Gold spot
สูงสุด – 2,519 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,508 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 40,500 บาท
ต่ำสุด – 40,450 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ช่วงเช้าราคาทองคำมีแรงเทขายออกมาเล็กน้อย แต่ช่วงบ่ายเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา อย่างไรก็ตาม ทิศทางดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐยังหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นต่อไปได้ หลังจากที่ประธานเฟดส่งสัญญาณชัดเจนในการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. นอกจากนี้ธนาคารกลางอังกฤษ-ธนาคารกลางยุโรป ยังส่งสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยอีกเช่นกัน ขณะที่ความต้องการทองคำจากอินเดียเพิ่มขึ้น ซึ่งอินเดียเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่อันดับสองของโลก ซึ่งการส่งออกทองคำของเปรูไปยังอินเดียคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 36% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.0% จากที่ลดลง 6.7% ในเดือนมิ.ย.
วิเคราะห์ราคาทอง
แม้เกิดแรงเทขายออกมาบ้าง แต่ทองคำก็มีแรงซื้อกลับเข้ามา ซึ่งแรงซื้อยังคงแข็งแกร่งมากกว่าแรงขาย ทั้งนี้ราคาทองคำมีทิศทางขาขึ้นในระยะยาว แต่ระยะสั้นยังคงให้ระวังแรงขายบริเวณแนวต้าน 2,530 ดอลลาร์ ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 2,500-2,530 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,500 และ 2,490 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,530 และ 2,540 ดอลลาร์
สามารถเทรดดิ้งระยะสั้นบริเวณกรอบแนวรับแนวต้านระหว่าง 2,500-2,530 ดอลลาร์ โดยเปิดฝั่ง Short Position บริเวณแนวต้าน 2,530 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,540 ดอลลาร์ หรือเปิด Long position บริเวณ 2,500 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,490 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 40,400 และ 40,300 บาท
แนวต้าน : 40,600 และ 40,700 บาท
ราคาทองคำแท่งได้แรงหนุนจากค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าในวันนี้ เข้าใกล้ 34 บาท หลังจากที่เงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามทิศทางค่าเงินบาทมีโอกาสกลับไปแข็งค่าได้ต่อ ซึ่งจะกดดันราคาทองคำแท่งในประเทศให้ปรับตัวลงได้ จากสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำแท่งยังมีทิศทางปรับตัวลง สำหรับเข้าซื้อทองคำแท่งให้ Wait & See