แนวโน้มราคาทอง
Sideways
- ราคาทองปรับตัวลง (-17.5) ดอลลาร์ คิดเป็น (-0.70%)
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,447 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,476 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,437 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 40,950 บาท
ต่ำสุด – 40,750 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำผันผวน หลังจากที่ราคทองคำขึ้นไปทดสอบแตะ 2,478 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้ระดับ All-Time High แต่ราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ จึงเกิดแรงเทขายออกมา ทั้งนี้สหรัฐได้มีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.9% ต่ำกว่าตลาดคาด แต่ตลาดคาดว่าเฟดอาจจะลดดอกเบี้ยเดือนก.ย. 0.25% ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนส.ค. ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนส.ค. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำดีดตัวขึ้นเข้าใกล้ All-Time High แล้วทำรูปแบบ Triple top ก่อนที่จะเกิดแรงเทขายออกมาอย่างรวดเร็วในช่วงกลางคืน ทั้งนี้แรงส่ง (Momentum) เริ่มลดลง อย่างไรก็คาดว่าราคาทองคำจะเริ่มเคลื่อนไหว Sideways ในระยะสั้น โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 2,430-2,465 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,450 และ 2,440 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,483 และ 2,500 ดอลลาร์
หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 2,420-2,430 ดอลลาร์ ให้เปิด Long Position บริเวณ 2,420-2,430 ดอลลาร์ สำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,415 ดอลลาร์ แต่ถ้าหลุด 2,420 ดอลลาร์ ให้ Short Position
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 40,700 และ 40,500 บาท
แนวต้าน : 40,900 และ 41,000 บาท
หลังจากที่เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องต่ำกว่า35 บาท เงินบาทก็เริ่มกลับมาอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว จากปัจจัยการเมืองในประเทศ หลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แนะนำให้ชะลอการเข้าซื้อทองคำแท่ง และอาจเริ่มขายทำกำไรบางส่วน สำหรับคนที่เก็งกำไรระยะสั้น