คาดเฟดตรึงดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้
Gold Bullish
- ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส
- ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง
- ความต้องการทองจากกระแส De-Dollarization
Gold Bearish
- เงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับสูงกว่าเป้าหมาย
- ตลาดคาดว่าเฟดตรึงดอกเบี้ยสูงนานขึ้น
คาดเฟดตรึงดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ ฉุดทองลงต่อ
สัปดาห์ก่อนราคาทองคำมีความผันผวนมาก ช่วงต้นสัปดาห์ทองคำมีแรงขายสลับแรงซื้อเข้ามา ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นแรงในช่วงกลางสัปดาห์ ภายหลังที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐหลายตัวอ่อนแอลง ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า และ bond yield สหรัฐปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาทองคำดีดตัวแรงในช่วงเช้า ก่อนที่จะเกิดแรงเทขายออกมาแรง ภายหลังที่มีข่าวเกี่ยวกับธนาคารประชาชนจีนได้ระงับการซื้อขายทองคำเข้าสู่กองทุนสำรองในเดือนพ.ค. หลังจากที่ได้ซื้อติดต่อกันเป็นเวลา 18 เดือน ทำให้ตลาดมีความตระหนกและตอบรับข่าวการหยุดซื้อทองคำจากธนาคารประชาชนจีน ซึ่งนับว่าจีนเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่อันดับต้น ๆ ขณะที่ในช่วงกลางคืนสหรัฐได้เปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. ซึ่งออกมาสูงกว่าตลาดคาดมาก และสูงกว่าตัวเลขครั้งก่อน ยิ่งสนับสนุนปัจจัยให้เฟดตรึงดอกเบี้ยนานขึ้น จึงส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่ามาก กดดันราคาทองคำลงแรงหลุดแนวรับจิตวิทยา 2,300 ดอลลาร์ ส่งผลให้ทิศทางราคาทองคำในทางเทคนิคมีทิศทางขาลงอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาธนาคารประชาชนจีนได้มีการเข้าซื้อทองคำนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2565 โดยธนาคารประชาชนจีนเดินหน้าเข้าซื้อทองคำเป็นทุนสำรอง นับว่าเป็นรายใหญ่อันดับต้น ๆ ในปี 2565-2567 โดยในปีนี้ธนาคารประชาชนจีนยังถือว่าเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่อันดับที่ 2 รองจากธนาคารกลางตุรกี ขณะที่เริ่มมีสัญญาณการซื้อทองคำของธนาคารประชาชนจีนชะลอตัวลงในเดือนเม.ย. โดยธนาคารประชาชนจีนรายงานว่าการซื้อทองคำชะลอตัวลงอย่างมาก โดยทองคำสำรองเพิ่มขึ้นเพียง 2 ตันในเดือนเม.ย. ซี่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายดือนต่ำที่สุดนับตั้งแต่กลับมารายงานอีกครั้งในเดือนพ.ย 2565 และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยรายเดือน ขณะที่ในเดือนพ.ค.นั้นจีนได้ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนเม.ย. แม้ว่าธนาคารประชาชนจีนจะไม่ได้เข้าซื้อทองคำ แต่ธนาคารประชาชนจีนก็ไม่ได้ขายทองคำออกมา คาดว่าอีกหนึ่งสาเหตุที่ธนาคารประชาชนจีนที่เริ่มชะลอการเข้าซื้อทองคำนับตั้งแต่เดือนเม.ย.นั้น เนื่องจากราคาทองคำดีดขึ้นแรงสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-Time High) นั่นเอง
จับตาการประชุมเฟดในสัปดาห์นี้ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11-12 มิ.ย. ทางกลุ่มฮั่วเซ่งเฮงยังคงคาดการณ์เหมือนเดิมว่าเฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ระดับ 5.25-5.50% และคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยปีนี้ 1 ครั้ง แต่สิ่งที่ต้องติดตามที่สำคัญคือ Dot plot ของเฟดว่าเฟดจะมีมุมมองเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ จากเดิมที่เฟดเคยส่งสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ 3 ครั้ง แต่ตลาดก็ได้มีการปรับเปลี่ยนมุมมองการคาดการณ์ตลอดเวลา จนสร้างความผันผวนต่อราคาทองคำเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การตรึงดอกเบี้ยของเฟด การส่งสัญญาณของเฟด และ Dot plot ของเฟด คาดว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณที่เปลี่ยนแปลงไป ท่าทีของเฟดคาดว่าน่าจะยังไม่เร่งการปรับลดดอกเบี้ย และมุมมองต่อจำนวนครั้งในการปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้อาจลดลงจากครั้งก่อน ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำให้ปรับตัวลงได้ต่อ
เกิดแท่งเทียนสีแดงเต็มแท่งลากยาวลงมาแรง และปิดตลาดต่ำกว่าแนวรับจิตวิทยาที่ 2,300 ดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้มีแรงขายอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวลงมาอยู่บริเวณฐานของรูปแบบ Double Top ทำให้สัญญาณทางเทคนิคกลับทิศทางเป็นขาลงอย่างชัดเจนขึ้น ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลงไปสู่ระดับ 2,250 ดอลลาร์ในระยะแรก หากหลุดแนวรับดังกล่าวมีโอกาสลงสู่แนวรับ 2,220 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,330 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,350 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 39,400 บาท และ 39,100 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 40,550 บาท และ 40,700 บาท